-

 

-

 

พระผู้ทรงเป็นขวัญและกำลังใจ


     เมื่อหลายสิบปีก่อน ประเทศเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงของไทย ประสบปัญหาภายในประเทศอย่างรุนแรงจนอาจกล่าวได้ว่าตกอยู่ในสภาพบ้านแตกสาแหรกขาด แผ่นดินลุกเป็นไฟไปแทบทั้งสิ้น มีเพียงประเทศไทยเท่านั้นที่ยั่งยืนยงอยู่ได้ท่ามกลางไฟสงครามที่ลุกอยู่รอบ ๆ ประเทศ แม้กระนั้น ทหาร ตำรวจ พลเรือน และอาสาสมัครผู้ป้องกันประเทศชาติ ก็ต้องบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมากในการปะทะกับกองกำลังต่างชาติตามแนวชายแดน รวมทั้งกับผู้ก่อการร้ายภายในประเทศ

     สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงห่วงใยในปัญหาความมั่นคงของชาติและเจ้าหน้าที่ผู้เสียสละเหล่านี้อย่างยิ่ง พระองค์โดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ไปทรงเยี่ยมเยียนพวกเขาเหล่านี้จนถึงฐานปฏิบัติการ ทรงนำเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นไปพระราชทาน และหลายครั้งที่ทรงนำพระเครื่องไปพระราชทานเพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจ ยามใดที่มีข่าวการปะทะและต้องสูญเสียบุคคลเหล่านี้ ก็ทรงเศร้าสลดพระราชหฤทัยและจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานความช่วยเหลือแก่บุคคลนั้นรวมทั้งครอบครัวทันที

     จนถึงวันที่ 2 เมษายน 2518 อันเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี จึงทรงก่อตั้งมูลนิธิสายใจไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ขึ้น เพื่อให้การสงเคราะห์แก่ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และอาสาสมัครผู้บาดเจ็บหรือพิการ ตลอดจนครอบครัวของผู้ที่พิการหรือเสียชีวิต นอกเหนือจากสิทธิที่จะได้รับความช่วยเหลือจากทางราชการ ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ที่ปฏิบัติการอยู่แนวหน้าเกิดความอบอุ่นใจว่ายังมีแนวหลังคอยห่วงใย เมื่อบาดเจ็บล้มตายก็จะไม่ถูกทอดทิ้งให้เผชิญชีวิตอยู่เพียงลำพัง และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นประธานมูลนิธิสายใจไทยฯ มาจนปัจจุบัน

     แต่แม้จะมีมูลนิธิสายใจไทยฯ มาช่วยรับภาระส่วนใหญ่ไปแล้วก็ตาม สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ยังทรงพระกรุณาให้จัดอาหารจากห้องเครื่องในสวนจิตรลดาไปพระราชทานแก่ทหารที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าอยู่เสมอ โดยพระราชทานทหารผู้บาดเจ็บจากการปะทะตามแนวชายแดนที่กำลังรักษาตัวอยู่ ทหารจากชายแดนที่ต้องรักษาอาการบาดเจ็บพิการอย่างต่อเนื่อง และทหารที่กำลังรอรับอวัยวะเทียม ซึ่งได้ทรงพระกรุณาพระราชทานมาตั้งแต่ครั้งที่ทหารไทยรุ่นจงอางศึกไปรบในสงครามเวียดนาม นับเป็นเวลาเกือบสามสิบปีมาแล้ว ทั้งยังมีพระราชเสาวนีย์ให้จัดเจ้าหน้าที่จากกองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ไปเยี่ยมดูอาการของทหารผู้บาดเจ็บทุกสัปดาห์ เมื่อฤดูร้อนมาถึง ยังโปรดให้จัดไอศกรีมไปพระราชทานเป็นพิเศษอีกด้วย

     นอกเหนือจากที่ทรงเป็นกำลังใจให้ผู้ที่ปฏิบัติการอยู่แนวหน้าแล้ว แนวหลังก็มีความสำคัญมิใช่น้อย ทรงสนับสนุนให้แนวหลังมีความรักชาติ ความสามัคคี และมีวินัย เช่น ทรงสนับสนุนกิจกรรมของลูกเสือแห่งชาติ และลูกเสือชาวบ้าน โดยสืบเนื่องมาเป็นระยะเวลายาวนานดังที่ได้เห็นประจักษ์กันอยู่จนทุกวันนี้