ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชปณิธานในการพัฒนาประเทศชาติให้มีความมั่นคง และประชาชนมีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี สอดคล้องกับการขับเคลื่อนความเท่าเทียมในการเข้าถึงระบบบริการสุขภาพ หนึ่งในเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ภายใต้โครงการ “ราษฎรสุขใจ พลานามัยสมบูรณ์ แพทย์พระราชทาน” โดยสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์และแพทย์อาสา นับแต่ปี 2565 โครงการฯ มีส่วนช่วยเหลือให้ประชาชนเข้าถึงการผ่าตัดรักษาโรคตาและบริการทันตกรรม รวมจำนวน 16,817 ราย
วันที่ 7 - 9 มกราคม 2568 สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ร่วมกับ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล จิตอาสานักเรียนทุนพระราชทาน ม.ท.ศ. ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) มูลนิธิสยามกัมมาจล บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) มูลนิธิ เอสซีจี บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และหน่วยงานภาคี จัดโครงการ “ราษฎรสุขใจ พลานามัยสมบูรณ์ แพทย์พระราชทาน” ครั้งที่ 1 ประจำปี 2568 เพื่อบรรลุเป้าหมายในการส่งเสริมให้ประชาชนที่อยู่ทั่วทุกภาคของประเทศแม้ในพื้นที่ห่างไกลได้เข้าถึงการรักษาอย่างเท่าเทียมและทันท่วงที ให้บริการผ่าตัดรักษาโรคตา จำนวน 285 ราย และหน่วยทันตกรรม 346 ราย ณ โรงพยาบาลศรีสังวาลย์ และเรือนจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมี นายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานในพิธีเปิด และคณะผู้บริหารสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ หน่วยงานราชการ ภาคีเครือข่าย มอบแว่นตาและถุงธารน้ำใจ สำนักงานทรัพย์สินฯ ให้แก่ ผู้ป่วยที่เข้าร่วมโครงการฯ รวมทั้งตรวจเยี่ยมเพื่อให้กำลังใจคณะแพทย์ พยาบาล จิตอาสา จิตอาสานักเรียนทุนพระราชทาน ม.ท.ศ. และผู้ป่วย
โดยผู้เข้ารับบริการเป็นประชาชนจังหวัดแม่ฮ่องสอน รวมถึงกลุ่มชาติพันธุ์ชาวมูเซอ กะเหรี่ยง ไทยใหญ่ และผู้ต้องขังในเรือนจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งจะลดระยะเวลาการรอคอยการรักษา ช่วยให้ผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงสิทธิการรักษา ได้รับการบริการอย่างทั่วถึงเท่าเทียมกันโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
โรงพยาบาลศรีสังวาลย์ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานนามว่า “โรงพยาบาลศรีสังวาลย์” ตามพระนามาภิไธยของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีที่เปี่ยมไปด้วยพระเมตตา พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ เพื่อเป็นทุนเริ่มต้นในการพัฒนาและก่อสร้างโรงพยาบาล ปัจจุบันได้ให้บริการแก่ประชาชนจังหวัดแม่ฮองสอน ประชาชนรอยต่อพื้นที่ชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน และผู้อพยพในศูนย์ลี้ภัย