พระราชปณิธานแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ เพื่อความสุขของประชาชน

 

พระราชปณิธานแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์
เพื่อความสุขของประชาชน

     พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ทรงราชย์สืบสนองพระองค์สมเด็จพระบรมเชษฐาธิราชซึ่งเสด็จสวรรคตอย่างกะทันหัน แม้ในภาวะอันสับสนเช่นนั้นแต่ก็ทรงแสดงพระราชปณิธานอันแน่วแน่ในเย็นวันที่รับทรงราชย์ ท่ามกลางพระบรมวงศานุวงศ์และข้าทูลละอองธุลีพระบาทที่ไปเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทอัญเชิญขึ้นทรงราชย์ว่าจะทรงทำหน้าที่ "ด้วยใจสุจริต"

     ครั้นถึงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก จึงได้พระราชทานพระปฐมบรมราชโองการ เป็นพระราชปณิธานอันแน่วแน่ที่ทรงครองไว้ได้อย่างบริสุทธิ์บริบูรณ์ตลอดรัชสมัย ว่า "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม"


    "ประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม" จึงเป็นเป้าหมายแห่งการทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจอันหลากหลายและมากมายเหลือคณานับ ดังที่คนไทยต่างได้ประจักษ์แก่ตาและแก่ใจถึงโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริหลายพันโครงการ และผลสัมฤทธิ์แห่งพระราชกรณียกิจที่ยังความผาสุกร่มเย็นแก่ราษฎรทั่วทุกภูมิภาคอยู่โดยถ้วนทั่วแล้ว ด้วยเหตุที่ทรงครองแผ่นดินโดยมั่นคงในทศพิธราชธรรม อันเป็นคุณสมบัติที่ถ้าผู้ปกครองทรงไว้ได้ ย่อมนำมาซึ่งความสุขแก่ผู้ใต้ปกครองโดยแท้จริง


    การพรรณนาถึงพระราชปณิธานในการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ให้ครบถ้วนกระบวนความ ย่อมเป็นไปได้ยากเกินกว่าจะทำได้ในชั่วพื้นที่อันจำกัด แต่สิ่งหนึ่งซึ่งคนไทยทุกคนพึงมีหน้าที่ปฏิบัติ คือการสืบสานพระราชปณิธานด้วยการปลูกปณิธานขึ้นในใจตน ด้วยการน้อมนำพระบรมราโชวาท พระราชดำรัส และแนวพระราชดำริ ไปปรับประยุกต์ใช้เป็นประทีปนำทางของตนๆ เพื่อประโยชน์สุขจักได้บังเกิดทั้งแก่ตน แก่ชุมชน และแก่ประเทศชาติ อันเป็นการสนองพระมหากรุณาธิคุณอย่างดีที่สุด


    " ...ชาติของเรารักษาความเป็นเอกราชและดำรงฐานะด้วยดีเป็นลำดับมาได้ ก็ด้วยอาศัยบรรพบุรุษของเราทั้งหลายมีความสามัคคี ร่วมแรงร่วมใจกันปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติมาแล้วตามประวัติศาสตร์ของเราจะเห็นได้ว่า คราวใดที่ชาวไทยมีความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ร่วมแรงร่วมใจกันเพื่อประเทศชาติแล้ว ชาติก็ได้รอดพ้นจากภัยพิบัติ สู่ความสุขความเจริญ แต่คราวใดที่ขาดความสามัคคีกลมเกลียวกัน ก็ต้องประสบเคราะห์กรรมกันทั้งชาติ จนบางคราวถึงต้องสูญเสียเอกราชไป ฉะนั้น จึงเป็นหน้าที่ของเราทั้งหลายที่จะต้องร่วมแรงร่วมใจกันปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุด ช่วยกันรักษามรดกอันตกทอดมาถึงเรานั้นไว้ให้ดี เพื่อให้ตกทอดต่อไปยังอนุชนรุ่นหลัง เป็นการเจริญรอยตามบรรพบุรุษของเราทั้งหลาย ซึ่งได้บำเพ็ญหน้าที่มาเป็นอย่างดีแล้ว..."


    "คนไทยแม้จะมีจิตใจรักความสะดวกสบาย และมักทำตามใจตัวกันเป็นปรกติ แต่ก็มีความสำนึกมั่นในชาติอยู่แทบทุกตัวตน ยามมีอันตรายเกิดขึ้นแก่บ้านเมือง เราก็รวมกันได้เหนียวแน่น และถือวินัยได้เคร่งครัด ดังนั้นเราจึงมีชาติมีประเทศอันตั้งมั่นโดยอิสระและเสรีมาช้านาน ทั้งยังสามารถสร้างสรรค์ความดีความเจริญต่างๆ  ไว้เป็นสมบัติของเราเองมากมาย


    ปัจจุบันนี้ สภาวการณ์หลายอย่างบ่งบอกว่าเป็นคราวที่เราจะต้องละวางความตามใจตัวกันแล้ว และจะต้องนึกถึงชาติประเทศกันให้หนักแน่น ทุกฝ่ายทุกคนควรจะได้เร่งรัดปฏิบัติสรรพกิจการงานทุกด้านโดยขะมักเขม้น ให้ประสานสอดคล้อง ปรองดองและเกื้อกูลกัน ตั้งมั่นอยู่ในความสุจริต สามัคคี และความไม่ประมาทใช้สติปัญญาความสามารถให้เป็นประโยชน์ให้มากที่สุด ยึดเอาอิสรภาพ อธิปไตย และประโยชน์สุขของประชาชนคนไทย เป็นจุดหมายที่สูงสุด... "    
                    


 

ที่มาข้อมูล : หนังสือบทเจริญพระพุทธมนต์ 6 เมษายน 2561
สืบสานพระราชปณิธาน “ธรรมราชินี”