เสด็จขึ้นทรงราชย์

 

เสด็จขึ้นทรงราชย์

     วันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พุทธศักราช 2559 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จสวรรคต สิริพระชนมพรรษา 89 พรรษา รวมระยะเวลาทรงครองราชย์ได้ 70 ปี โดยต่อมาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม พุทธศักราช 2559 ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ปฏิบัติหน้าที่ประธานรัฐสภาได้กราบบังคมทูลอัญเชิญสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ ฯ สยามมกุฎราชกุมาร (พระราชอิสริยยศในขณะนั้น) เสด็จขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ ๑๐ แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 มาตรา 2 วรรคสอง ประกอบกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 23 วรรคหนึ่ง
 

     ในการนี้ พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (ขณะทรงดำรงพระอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร) ในโอกาสที่ประธานโอกาสที่ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เฝ้าทูลละอองพระบาท กราบบังคมทูลอัญเชิญเสด็จขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต วันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม พุทธศักราช 2559 ความว่า


     “ตามที่ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ปฏิบัติหน้าที่ประธานรัฐสภาได้กล่าวในนามของปวงชนชาวไทยเชิญข้าพเจ้าขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ ว่าเป็นไปตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และเป็นไปตามบทบัญญัติของกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ กับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยนั้น ข้าพเจ้าขอตอบรับ เพื่อสนองพระราชปณิธาน และเพื่อประโยชน์ของประชาชนชาวไทยทั้งปวง.”